เมื่อโลกได้ก้าวเข้าสู่ยุคที่ ข้อมูลกลายเป็นสินทรัพย์ที่มีค่าเปรียบเสมือนน้ำมัน การนำข้อมูลที่รวบรวมได้มาใช้ให้เกิดประโยชน์กลายเป็นสิ่งที่องค์กรต่างๆต้องสนใจ เพื่อนำมาสร้างจุดแข็งและกลยุทธ์ที่ได้เปรียบ โดยในแวดวงของการทำ Marketing การดึงดูดลูกค้าและการรักษาลูกค้าเอาไว้เพื่อเพิ่มยอมกำไรให้ธุรกิจก็ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญไม่ต่างกัน และ 1 ในกลยุทธ์ Marketing ที่สำคัญในตอนนี้ก็คือ Customer Data Platform หรือ CDP
แล้ว CDP คืออะไร?
CDP หรือ Customer Data Platform คือ เทคโนโลยีซอฟต์แวร์ MarTech ที่ถูกใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลของลูกค้าที่ได้มาจากช่องทางต่างๆ ตัวอย่างเช่น พฤติกรรมการซื้อของลูกค้า ข้อมูลการสอบถามเกี่ยวกับบริการหรือสินค้าผ่านช่องทางต่างๆ โดยข้อมูลพวกนี้จะถูกจัดกลุ่มแบ่งไปตามความแตกต่าง (Segmentation) และในท้ายที่สุดจนกลายเป็น profile ของลูกค้ารายบุคคล ด้วยผลลัพธ์ที่ได้มาทำให้เกิดกลยุทธ์การตลาดที่แตกต่างกันมากมาย และสามารถนำไปปรับใช้กับลูกค้าแต่ละคนให้เหมาะสมและสร้าง Personalized Marketing หรือ Personalized Experience ให้แก่ลูกค้า
Customer Data = สิ่งที่ทำให้รู้จักลูกค้าได้มากขึ้น
1st Party Data: เป็นข้อมูลที่องค์กรจัดเป็นเจ้าของและจัดเก็บเอง โดยจะเป็นข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าที่เอาไปใช้ระบุตัวตนได้ เช่น ชื่อนามสกุล เบอร์โทร อีเมล รายละเอียดที่อยู่
2nd Party Data: เป็นข้อมูลที่มาจากการได้รับจากหรือแลกเปลี่ยนกับ Business Partner ต่างๆมีองค์กรมีอยู่
3rd Party Data: เป็นข้อมูลที่จัดเก็บอยู่ที่ vendor หรือ platform ที่แค่มีเงินทุนก็สมารถเข้าถึงได้ไม่ยาก โดยจะเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนลูกค้าได้ หรือเป็น Anonymous นั่นเอง เช่น Device ID หรือ Cookie ID ซึ่งแสดงให้เห็นพฤติกรรมต่างๆของลูกค้า
แล้ว CDP ต่างจาก DMP และ CRM อย่างไร
โดยสิ่งที่ความเหมือนกันนั้นคือทั้ง DMP, CRM และ CDP เป็นเครื่องมือหา Customer Insights เพื่อปรับปรุง Customer Experience ให้ดีขึ้น และทำ segmentation แต่จะต่างกันโดย DMP (Data management platform) จะนำข้อมูลจากแค่ 3rd Party Data มาใช้ทำให้ไม่สามารถระบุตัวตนลูกค้าได้ ซึ่งจะเป็นข้อมูลที่ไม่ได้อยู่ถาวร ต่างจาก CRM (Customer Relationship Management) และ CDP ที่เก็บข้อมูลมาจาก 1st, 2nd, และ 3rd party data ทำให้ข้อมูลคงอยู่ถาวร และสามารถระบุตัวตนลูกค้าได้ โดย DMP จะถูกใช้โดย Marketers and Media agencies เพื่อในไปใช้ในการทำโฆษณา ส่วน CDP จะเป็นเหมือนการพัฒนาของ CRM ที่ใช้กันมานานแล้ว โดย CDP จะสามารถนำข้อมูลที่ได้มาไปใช้ได้หลากหลายกว่า CRM เนื่องจากข้อมูลมีความเชื่อมโยงมากกว่า และ CDP ยังสามารถนำข้อมูลมาระบุลูกค้าด้วย PII (Personally Identifiable Information) ได้ โดย CRM จะถูกใช้โดย Sales และใน After-sales Service ส่วน CDP จะถูกใช้โดย Marketers
ประโยชน์ของ CDP
- การรวมรวบข้อมูลลูกค้าไว้ในที่เดียว (unification) ซึ่งทำหน้าที่เป็นเสมือนศูนย์กลาง โดยวิธีนี้จะทำให้องค์กรสามารถเข้าใจพฤติกรรมลูกค้าและนำไปจัดกลุ่มและสร้าง Personalized Marketing แก่ลูกค้าด้วยกลยุทธ์ใหม่ๆ
- เพิ่มความพึงพอใจให้ลูกค้าเนื่องจากลูกได้เจอ content หรือ โปรโมชั่นที่เหมาะกับความสนใจตัวเอง หรือ ตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้ดี ซึ่งอาจจะทำให้เกิด conversion ratesที่สูงขึ้นและรวมไปถึง brand loyalty แก่ธุรกิจ
- ประหยัดเงินและประหยัดเวลาด้วยเทคโนโลยีในระบบ และทำให้ปรับแผนกลยุทธ์ต่อลูกค้าได้ทันท่วงทีและมีความทันสมัยอยู่ตลอด
- ข้อมูลที่เก็บไว้มาจากหลายแหล่ง ลดความเสี่ยงข้อมูลหายจากการพึ่งพาจากข้อมูล 3rd Party Data
- มีความเป็นส่วนตัวของข้อมูลที่สูงเมื่อเทียบกับ DMP และ CRM
หากคุณสนใจในเรื่องของการจัดกลุ่มลูกค้าและวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้า และอยากทราบข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อพวกเรา Davoy เรามีทีมผู้เชี่ยวชาญด้าน Customer Analytics สามารถกรอกรายละเอียดในแบบฟอร์มด้านล่าง หรือติดต่อเรา โดยคำปรึกษาครั้งแรก ฟรี !